ท่ามกลางแนวโน้มทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงเป็นสังคมเมืองมากขึ้น คนส่วนใหญ่ทำงานในองค์กร และใช้ชีวิตอยู่ในองค์กรไม่น้อยกว่าวันละ 7-8 ชั่วโมง ดังนั้นความรู้สึกสุขหรือทุกข์ สาเหตุหลักๆจึงมาจาก สถานที่ทำงาน หรือการทำงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตส่วนตัวและชีวิตครอบครัวได้ เนื่องจากองค์กรต่างๆ จะมุ่งเน้นเป้าหมายผลกำไร ผลประโยชน์ของทางบริษัทและลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้องค์กรอยู่รอด จึงนำนวัตกรรมทั้งภายในภายนอกที่หลากหลายมาใช้เป็นเครื่องมือทำให้คน งาน เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปในทางให้ดีขึ้น นวัตกรรมส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ก็ยังมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของงานและประสิทธิภาพของการทำงาน เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเช่นเดิม ซึ่งในทางกลับกันความสุขของคนทำงานกลับลดน้อยลง เพราะ ใจไม่เป็นสุขเกิดความกังวลใจอยู่ตลอดเวลากลัวว่างานที่รับผิดชอบจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่องค์กรวางไว้ทำให้มีความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาเช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเบื่อหน่ายไม่อยากทำงาน มีการเปลี่ยนย้ายงานบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าความสำเร็จขององค์กรกับความสุขของบุคลากรในองค์กลับสวนทางกันอย่างชัดเจน
จากสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวทำให้แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรของสสส.ซึ่งขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพตามทิศทาง เป้าหมาย และยุทธศาสตร์ 10 ปีของสสส. โดยใช้แนวทาง Healthy Workplace Framework ขององค์การอนามัยโลกเป็นการขับเคลื่อน ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนงานของสสส.ในด้านของ Happy 8 เป็นการสนับสนุนงานด้านองค์กรสุขภาวะ ตามแนวคิดการสร้างองค์กรแห่งความสุข 8 มิติ โดยเฉพาะ Happy soul ซึ่งเป็นความสุขด้านจิตใจ มีคุณธรรม ศรัทราในพระพุทธศาสนา และศีลธรรมในการดำเนินชีวิต ที่เรียกว่า การใช้ชีวิตอย่างมีสติ ดังนั้นทางกรมสุขภาพจิตร่วมกับโครงการสร้างสุขและจิตสำนึกด้วยโปรแกรมสติในองค์กร จึงได้จัดทำโปรแกรมสร้างสุขด้วยสติในองค์กร (Mindfulness in organization : Mio) ขึ้น เป็นการสร้างสติที่ไม่เน้นหลักศาสนา แต่เน้นหลักจิตวิทยา ที่ทุกคนทุกศาสนาสามารถนำไปปรับใช้ในองค์กรและในชีวิตประจำวันได้
โปรแกรม Mio (สร้างสุขด้วยสติในองค์กร) เป็นโปรแกรมเพื่อมุ่งส่งเสริมให้ประชาชน มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขในการทำงาน และเน้นการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ ฝึกให้คนมีสภาวะจิตที่สูง คือ การมีสติและสมาธิ มาเป็นเครื่องมือในลักษณะ (Metaskill) นำไปสู่คุณลักษณะที่ดีของตน เช่น เห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความรับผิดชอบ มีความคิดบวก สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น มีสัมพันธ์ภาพกับเพื่อนร่วมงานดีขึ้น เกิดความสงบ ด้วยการรับฟังอย่างมีสติ เกิดการสื่อสารอย่างมีสติ เกิดความคิดสร้างสรรค์สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ ทั้งในระดับตนเอง ระดับทีม และระดับองค์กรได้ สอดคล้องกับนโยบายของกรมสุขภาพจิตภายใต้แนวคิด “คิดดี คิดให้ คิดเป็น เป็นสุข”